รอยแผลเป็นจากการปลูกผม
รอยแผลเป็นเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ที่ผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกผมรู้สึกกังวลมากที่สุด แต่ด้วยเทคนิคขั้นสูงสมัยใหม่ทำให้รอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่เกิดจากการปลูกผมกลายเป็นเรื่องในอดีต แต่ก็เอาเกิดรอยแผลเป็นได้บ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปลูกผมด้วยวิธี FUT และในบทความนี้เราจะกล่าวถึงรายละเอียดของวิธีการที่ผู้ป่วยสามารถใช้เพื่อลดหรือปกปิดรอยแผลเป็นหลังการปลูกผมได้
เทคนิคการปลูกผม
การปลูกผมมีความก้าวหน้าอย่างมาก ตั้งแต่เริ่มถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2483 ซึ่งเป็นการปลูกผมเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดูหยาบ ไม่เป็นธรรมชาติ และทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ไม่น่าดูเอาไว้ รอยแผลเป็นขนาดใหญ่นี้ทำให้ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงไม่อยากเข้ารับการปลูกผม รอยแผลเป็นเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้กระทั่งแม้ว่าจะมีเทคนิคสมัยใหม่และการวิจัยขั้นสูง แต่แผลเป็นที่เกิดขึ้นจะมีขนาดที่เล็กมาก และมีลักษณะที่ดีกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกผมในยุคแรก
เทคนิคการปลูกผมแต่ละวิธีจะทิ้งรอยแผลเป็นที่แตกต่างกันไป ซึ่งเกิดขึ้นจากความแตกต่างของขั้นตอนการสกัดเก็บผม
ในการปลูกผมด้วยวิธี FUE จะมีการสกัดเก็บรากผมเป็นกอ ที่ประกอบด้วยรากผม 1-4 โดยใช้เข็มขนาดเล็กที่มีลักษณะกลวง วิธีนี้เป็นการผ่าตัดแบบแผลเล็กที่ทำให้เกิดแผลที่มีลักษณะเป็นรูกลมขนาดเล็กมาก กระจายไปทั่วบริเวณ Donor Area แผลเหล่านี้จะสามารถหายได้เองและกลายเป็นจุดสีชมพูขนาดเล็กในเวลาประมาณ 5 วัน และจะเปลี่ยนไปเป็นรอยแผลเป็นสีขาวขนาดเล็กในที่สุด ซึ่งสามารถซ่อนไว้ในผมส่วนที่เหลือในบริเวณ Donor Area แผลเป็นเหล่านี้สังเกตเห็นได้ค่อนข้างยาก วิธีการนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ชอบไว้ผมสั้น
FUT เป็นเทคนิคการปลูกผมโดยการตัดแถบเนื้อเยื่อผิวหนังที่มีเส้นผมอยู่เป็นปริมาณมาก ออกจากบริเวณ Donor Area ซึ่งมักอยู่ที่ด้านหลังของศีรษะ จากนั้นจึงตัดแยกออกเป็นรากผม และนำมาใช้เพื่อปลูกลงในบริเวณที่ล้าน-เถิก แต่วิธีการนี้จะทำให้เกิดแผลเป็นเป็นเส้นยาวตามขนาดแผลที่ได้สร้างไว้ เมื่อทำการปลูกผมเสร็จ แพทย์จะเย็บปิดแผล ซึ่งสามารถตัดไหมออกได้ประมาณ 2 สัปดาห์ต่อมา แผลเป็นที่เกิดจากวิธีนี้จะเห็นได้ชัดเจนกว่าแผลเป็นที่เกิดจากวิธี FUE จึงทำให้ต้องไว้ผมยาวเพื่อปกปิดแผลเป็นจากการผ่าตัด
หลังการปลูกผมด้วยวิธี FUT ผู้ป่วยโดยส่วนใหญ่เลือกที่จะกำจัดหรือปกปิดแผลเป็นที่เกิดขึ้นมากกว่าผู้ป่วยที่รับการปลูกผมด้วยวิธี FUE แต่ผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกผมทั้งสองวิธีมักขอรับการรักษาหรือยาเพื่อปกปิดแผลเป็นที่เกิดขึ้น
การกำจัดรอยแผลเป็นจากการปลูกผม
แผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังการปลูกผมด้วยวิธี FUT สามารถทำให้จางลงหรือลดลงได้ด้วยหลายวิธี แต่วิธีการเหล่านี้ไม่สามารถกำจัดแผลเป็นได้อย่างสมบูรณ์หรือถาวร เนื่องจากไม่สามารถกำจัดเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายออกไปได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อผู้ป่วยไม่พอใจกับผลลัพธ์ของวิธี FUT ครั้งแรก ผู้ป่วยอาจขอรับการปลูกผมอีกครั้ง หากหนังศีรษะของผู้ป่วยยังคงสามารถรับการปลูกผมได้ แพทย์จะเปิดแผลเดิมที่เกิดจากการทำ FUT ครั้งแรก จากนั้นจึงนำผิวหนังโดยรอบมาใช้ในการปลูกผม นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีนี้เพื่อปรับปรุงลักษณะของแผลเป็นจากการปลูกผมครั้งแรก โดยการกำจัดเนื้อเยื่อที่เสียหายและการเย็บแผลใหม่ให้เหมาะสม
ยาบางชนิดสามารถทำให้เนื้อเยื่อแผลเป็นบางลงได้ และอาจมีการฉีดสเตียรอยด์เพื่อทำให้เนื้อเยื่อแผลเป็นเรียบ เพื่อให้สามารถปลูกผมได้อีกครั้งเพื่อปกปิดแผลเป็น
เทคนิคที่ใช้ในการปกปิดแผลเป็น
แม้ว่าจะยังไม่มีวิธีที่สามารถกำจัดรอยแผลเป็นได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีหลายวิธีที่สามารถปกปิดแผลเป็นได้
วิธีที่นิยมใช้ในการปกปิดแผลเป็นจากการปลูกผมด้วยวิธี FUT คือ เทคนิค FUE แต่ก็อาจไม่สามารถปลูกผมลงบนแผลเป็นทั้งหมดได้ ตัวอย่างเช่น แผลเป็นคีลอยด์ ซึ่งเป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะนูนและมีความกว้างเพิ่มขึ้นหลังจากการทำศัลยกรรมตกแต่ง แผลเป็นแบบนี้จะปลูกผมได้ยาก เนื่องจากกราฟต์ผมไม่สามารถเข้าถึงหลอดเลือดที่หนังศีรษะได้ ซึ่งจำเป็นต่อการงอกของเส้นผม
วิธีการอื่น ๆ ที่ใช้ในการปกปิดแผลเป็นจากการปลูกผมด้วยวิธี FUT ก็คือ การสักหนังศีรษะ (SMP) ซึ่งเป็นการสักหมึกลงบนหนังศีรษะโดยตรงให้มีลักษณะคล้ายเส้นผมจริง และมักถูกเรียกว่าการสักไรผมหรือการสักหนังศีรษะ เช่นเดียวกับการสักแบบอื่น ๆ ภายหลังการสักหนังศีรษะอาจเกิดปัญหาขึ้นได้เมื่อการงอกของผมและการซีดจางของหมึกเกิดขึ้นในอัตราที่ไม่เท่ากัน ในบางครั้งการสักหนังศีรษะก็ถูกนำมาใช้แทนการปลูกผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีปัญหาผมบางแต่ไม่เถิกล้าน
Tricopigmentation (TMP) เป็นการสักหนังศีรษะแบบกึ่งถาวร โดยการสักหมึกลงที่ด้านบนของชั้นหนังแท้เท่านั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธี SMP ซึ่งจะสักหลายชั้นในระดับที่ลึกกว่า แต่ TMP จะให้ผลประมาณ 6 เดือน ถึง 3 ปี เท่านั้น
การรักษาด้วยเลเซอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาแผลเป็น และมักใช้ร่วมกับ SMP หรือ TMP เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เลเซอร์จะช่วยกำจัดเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายออกจากพื้นผิวบริเวณแผลเป็นและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในบริเวณดังกล่าว ซึ่งคอลลาเจนจะเพิ่มความยืดหยุ่นและปรับปรุงลักษณะของผิวหนัง และลดความเสียหายของผิวหนัง
คำถามที่พบบ่อย
เช่นเดียวกับแผลเป็นจากการผ่าตัดแบบอื่น ๆ รอยแผลเป็นจากการปลูกผมจะไม่หายไปอย่างสมบูรณ์ แผลเป็นเหล่านี้อาจจางหายไปและลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่จางหายไปจนหมด การรักษาแผลเป็นสามารถทำได้ด้วยหลายวิธี เพื่อช่วยปรับปรุงลักษณะของแผลเป็นหรือปกปิดแผลเป็น
หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการปกปิดรอยแผลเป็นจากการปลูกผมด้วยวิธี FUT คือ การปลูกผมด้วยวิธี FUE เพื่อเติมเต็มรอยแผลเป็น และในบางครั้งอาจต้องมีการฉีดสเตียรอยด์เพื่อทำให้แผลเป็นเรียบ เพราะหากแผลเป็นมีลักษณะนูน กราฟต์ผมจะเชื่อมต่อกับแหล่งเลือดหล่อเลี้ยงได้ยาก
เป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดรอยแผลเป็นจากการปลูกผมได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีวิธีที่สามารถลดรอยแผลเป็น เช่น การใช้ยา การปลูกผมเพิ่มเติม หรือการรักษาในรูปแบบต่าง ๆ
ไหมจากการปลูกผมด้วยวิธี FUT จะถูกตัดออกประมาณ 14 วันหลังจากการผ่าตัด แต่จะยังคงมีรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่มีความกว้างประมาณดินสอ รอยแผลเป็นจากการปลูกผมด้วยวิธี FUE จะค่อยๆ จางลงเป็นจุดสีชมพูเล็ก ๆ ในเวลาประมาณ 5 วัน